ตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์
( ตำนานเล่าโดยพ่อครูเสมือน )
สมัยโบราณผู้ที่มีสมบัติอันหวงแหนไว้ มักจะนิยมบรรจุใส่ไหหรือหีบฝังไว้ใต้ดินหรือซ่อนไว้ในถ้ำ หรือฝังไว้ใต้ถุนบ้าน หากเป็นการซ่อนสมบัติรอให้ลูกหลานหรือคนในตระกลูมาขุดเอาไปใช้ประโยชน์มักจะมีการฝังซ่อนสมบัติไว้อย่างดีเพื่อป้องกันบุคคลภายนอกหรือผู้มีความโลภมาแอบขุดเอาไปก่อนที่บุคคลที่สมควรจะได้มาขุดพบเข้า หากเจ้าของมีจิตใจหวงแหนสมบัตินั้นมาก มักจะหาที่ซ่อนสมบัติดีๆพร้อมกับมาการสาปแช่งไว้ หากเป็นผู้รู้ด้านเวทมนต์ก็จะลงอักขระทำอาถรรพ์ไว้"ซึ่งการลงอาถรรพ์ฝังสมบัติจะเป็นอีกวิชาหนึ่งเป็นการเฉพาะอีกทีจะขอไม่กล่าวถึงรายละเอียดตรงนี้"
ปู่โสมคือผู้ที่เป็นเจ้าของสมบัติที่ก่อนตาย อาจจะเป็นหญิงหรือชายก็ได้แต่มักจะเรียกรวมๆว่าปู่โสม
ได้มีจิตผูกติดหวงแหนสมบัติที่ตนได้ฝังหรือซ่อนไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่และได้สาปสมบัติไว้ บางคนได้มีการกรีดเลือดของตนเองหลั่งรินฝากแม่ธรณีพร้อมๆกับสาปแช่งไว้รอคอยคนที่ตนต้องการจะให้มาขุดเอาไปหรือรอคนที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสมมาพบเจอจึงอนุญาติให้ขุดเอาไปได้ ดังเจตนาเจ้าของสมบัติ และอีกกรณีที่เป็นการฆ่าคนหรือบริวารที่ยินดีเป็นวิญญาณรักษาสมบัติฝั่งไปพร้อมกับเจ้านายหรือเกิดเหตุสงครามที่เชื้อพระวงษ์มีเหตุที่ต้องทิ้งบ้านเมืองไปจึงต้องรวบรวมสมบัติมีค่าไปฝังไว้ ก็จะมีทหารหรือบริวารที่จงรักภักดีเต็มใจสละชีวิตเป็นวิญญาณดูแลสมบัติไว้ ในสมัยอดีต ก็จะกลายเป็นวิญญารักษาสมบัติ ในกรณีนี้มักจะเป็นสมบัติของชาติและเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง สมัยโบราณ
อาถรรพ์ที่เกิดจากการผูกสัญญาสาปแช่งกับสมบัติไว้ ผู้นั้นตายไปจึงกลายเป็นดวงวิญญาณที่คอยรักษาสมบัตินั้นไว้ไม่ไปไหน กลายเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ที่มีพลังแรงกล้า พ่อครูเสมือนบอกกับผู้เขียนอีกว่าวิญญาณประเภทนี้มีพลังแรงหรือเฮี้ยนมากที่สุด "เฮี้ยนมากกว่าผีตายโหงซะอีก" ปราบยากหรือปราบไม่ได้เลย เพราะถ้าหากวิญญาณปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไม่ต้องการให้ใครเห็นที่ซ่อนสมบัติก็จะไม่สามารถพบตำแหน่งที่ซ่อนได้เลย เหมือนจะถูกปิดหูปิดตา หลงทาง หลงป่า หลงถ้ำสารพัด และบางแห่งถึงจะรู้ที่ขุดแต่ขุดยังไงก็ไม่พบเจอเพราะสมบัติมันแล่นหนีใต้ดินได้ หากผู้มีวิชารู้ด้วยทางใน หากเอาไปได้ก็อาจถึงขั้นเอาตัวแทบไม่รอดแต่ปู่โสมก็จะตามไปทวงคืนและรอทีเผลอพร้อมเล่นงานอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเป็นคนธรรมดาที่รับไปต่อโดยวิธีไม่ถูกต้องอาจจะวิบัติมีอันเป็นไปทั้งครอบตรัวและก็จะกลายเป็นวิญญาณเฝ้าสมบัติต่อไปเป็นตัวตายตัวแทนสืบต่อไป
BY : ด้วยฤทธิ์ กฤติยา
0 ความคิดเห็น: